irpc

กลุ่ม ปตท. จังหวัดระยอง ร่วมกับ เทศบาลนครระยองจัดการแข่งขันฟุตบอล PTT Group Cup 2023

กลุ่ม ปตท. จังหวัดระยอง ร่วมกับ เทศบาลนครระยอง ดำเนินการจัดการแข่งขันโครงการฟุตบอล PTT Group Cup 2023 ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

วันพฤหัสบดีที่ 8 มิถุนายน 2566 นายสุพจน์ ต่ออาจหาญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง นายวิชิต ศรีชลา นายกเทศมนตรีนครระยอง และ นายสรไนย เลิศอักษร ประธานกรรมการกำกับดูแลการดำเนินงานด้านความรับผิดชอบต่อสังคมกลุ่ม ปตท. จังหวัดระยอง พร้อมด้วยผู้บริหารส่วนราชการจังหวัดระยอง และ คณะผู้บริหาร กลุ่ม ปตท. เข้าร่วมพิธีอัญเชิญถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และงานแถลงข่าวการจัดการแข่งขันฟุตบอลเยาวชน PTT GROUP CUP 2023 ครั้งที่ 25 ในวันพฤหัสบดีที่ 8 มิถุนายน 2566 เวลา 09.00 – 12.00 น.

ณ ห้องประชุมจันทน์เทศ อาคารทับทิมสยาม โรงแยกก๊าซธรรมชาติระยอง จังหวัดระยอง โดยมีวัตถุประสงค์ในการจัดการแข่งขันฟุตบอลเยาวชน PTT Group Cup คือมุ่งเน้นการพัฒนาศักยภาพ การสร้างโอกาสด้านกีฬาฟุตบอลให้กับเยาวชนในจังหวัดระยอง เป็นเวทีให้นักฟุตบอลเยาวชนได้แสดงศักยภาพ และเป็นเส้นทางเข้าสู่การแข่งขันฟุตบอลระดับอาชีพ โดยในปี 2566 นี้ ดำเนินการจัดการแข่งขันจำนวน 3 รุ่น ได้แก่ รุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี รุ่นอายุไม่เกิน 14 ปี และรุ่นอายุ ไม่เกิน 12 ปี ชิงถ้วยพระราชทานฯ และเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 600,000 บาท

สุดท้ายนี้ กลุ่ม ปตท. จังหวัดระยอง หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการแข่งขันนี้จะทำให้เยาวชนมีน้ำใจนักกีฬา รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย รวมถึงจะได้พัฒนาทักษะทางด้านกีฬาฟุตบอลอย่างต่อเนื่องเพื่อประโยชน์ในอนาคต

ไออาร์พีซี จ.ระยอง หยุดซ่อมบำรุงใหญ่เครื่องจักร ของกลุ่มโรงงาน

ไออาร์พีซี จ.ระยอง หยุดซ่อมบำรุงใหญ่เครื่องจักร ของกลุ่มโรงงาน

บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) ได้กำหนดซ่อมบำรุงใหญ่ประจำปี 2565 (Turn Around 2022) ระหว่างวันที่ 16 กันยายน 2565 ถึง 30 พฤศจิกายน 2565และ 1 กุมภาพันธ์ – 9 เมษายน 2566

โดยนายวรวุฒิ ศิวะเพ็ชรานาถ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ GRO CPRO ปฏิบัติการผลิตปิโตรเคมีและการกลั่น กล่าวว่า เนื่องด้วยกลุ่มโรงงานภายในเขตประกอบการของ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) ได้ดำเนินการผลิตมาได้ระยะเวลาหนึ่ง จะต้องทำการหยุดเดินเครื่องจักร เพื่อตรวจสอบสภาพอุปกรณ์ต่างๆ ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งในการหยุดซ่อมบำรุงเครื่องจักรจะมีขั้นตอนการปฏิบัติเป็นไปตามหลักสากล โดยจะมีขั้นตอนหลัก ดังนี้

– ช่วงเริ่มหยุดการผลิต การหยุดระบบทั้งหมดและถ่ายของออกจากระบบไปเก็บไว้ในถังพัก และทำระบบให้พร้อมซ่อมบำรุง ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น ได้แก่ เสียง : จากการเปิดและเตรียมระบบ, กลิ่น : จากการเตรียมระบบด้วยไอน้ำและไนโตรเจน, แสง/ควัน : จากการระบายก๊าซตกค้างออกหอเผาทิ้ง

– ช่วงซ่อมบำรุง ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น ได้แก่ ฝุ่นละออง : จากการทาสี ขัดล้างอุปกรณ์ในที่สูง, น้ำเสีย : จากการล้าง ซ่อมบำรุง, ขยะและกากอุตสาหกรรม : จากการซ่อมบำรุง

– ช่วงเริ่มเดินเครื่องใหม่ ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น ได้แก่ เสียง : จากการเตรียมระบบไอน้ำ, แสง/ควัน : จากการระบายก๊าซออกหอเผาทิ้ง

นอกจากนั้นอาจมีผลกระทบด้านอื่นๆ อาทิ เช่น ด้านการจราจร ด้านความปลอดภัยและอาชีวอนามัย ซึ่งทางบริษัทฯ มิได้นิ่งนอนใจ จึงได้กำหนดนโยบายต่างๆ ให้รัดกุมยิ่งขึ้น เพราะถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องเร่งดำเนินการ เช่น จัดเวลาการเข้าออกของผู้รับเหมาให้เข้าทำงานช่วงเวลา 05.00 – 07.00 น. และประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรให้ช่วยอำนวยความสะดวก และจัดระบบในเส้นทางต่างๆ อีกทั้งได้ทำการประชาสัมพันธ์ให้หน่วยงานราชการ องค์กรท้องถิ่น สื่อมวลชน ห้างร้านและประชาชนโดยรอบโรงงาน ได้รับทราบแผนงาน และความคืบหน้าต่างๆ อย่างทั่วถึง ได้แก่ ผู้บริหารออกไปชี้แจงแผนงานกับส่วนราชการต่างๆ องค์กรท้องถิ่น จึงได้ทำหนังสือแจ้งหน่วยงานราชการต่างๆ สื่อมวลชนท้องถิ่น หนังสือพิมพ์ สถานีวิทยุกระจายเสียง โดยนอกจากนี้ทาง บริษัทฯ ได้จัดรถกระจายเสียงออกประชาสัมพันธ์เคลื่อนที่ แจ้งผ่านหอกระจายข่าว ป้ายประชาสัมพันธ์ในพื้นที่ชุมชน แผ่นพับ โปสเตอร์ โซเชียลออนไลน์ ทั้ง csr irpc facebook และ Line บอกเล่าเก้าสิบ ฯลฯ

การเฝ้าระวังผลกระทบกับชุมชนรอบเขตประกอบการฯ นั้น ได้จัดตั้งศูนย์ประสานงานภาคสนามโดยมีทีมงานเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงสถานีตรวจอากาศถาวร, สถานีตรวจอากาศเคลื่อนที่, ทีมแพทย์สัญจรลงพื้นที่ต่างๆ รอบเขตประกอบการฯ ด้วย

จึงขอเรียนชี้แจงว่า บริษัทฯ มีความมุ่งมั่นที่กำกับดูแลการหยุดซ่อมบำรุงใหญ่ประจำปี 2565 เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานมีความปลอดภัย และไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนรอบเขตประกอบการ หากท่านมีข้อสงสัยประการใด โปรดสอบถามรายละเอียดได้จากเจ้าหน้าที่ศูนย์ควบคุมภาวะฉุกเฉินหมายเลขโทรศัพท์ 1800 800 008 หรือ 038-802560 ตลอด 24 ชั่วโมง และพนักงานมวลชนสัมพันธ์ ที่ประจำพื้นที่ต่างๆ

บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการดูแลสังคม ชุมชน ด้วยความห่วงใย ใส่ใจ และแบ่งปัน เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนตลอดไป

IRPC มอบถังน้ำมันเปล่า สนับสนุนภารกิจกรมป่าไม้

IRPC มอบถังน้ำมันเปล่า สนับสนุนภารกิจกรมป่าไม้ ใน “โครงการถังน้ำใจดับไฟป่า”เพื่อเป็นที่เก็บน้ำสำรองในพื้นที่สูง เสี่ยงการเกิดไฟป่า

คุณอดิศร นุชดำรงค์ อธิบดีกรมป่าไม้ รับมอบถังน้ำมันเปล่าที่ไม่ใช้งานแล้ว ขนาด 200 ลิตร จำนวน 318 ถัง จากคุณอาริสรา สุธาสุทธิ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สำนักกิจการองค์กร บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC  ภายใต้ “โครงการถังน้ำใจดับไฟป่า” เพื่อสนับสนุนภารกิจของส่วนควบคุมไฟป่า ได้นำไปใช้ประโยชน์เป็นแหล่งน้ำสำรองในพื้นที่สูง ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงการเกิดไฟป่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงหน้าแล้ง ซึ่งแนวทางหนึ่งในการช่วยป้องกันการลามไฟของไฟป่า คือการสร้าง      แนวกันไฟ โดยการใช้ถังน้ำมันเปล่ารองรับน้ำฝนสำรองไว้ใช้ควบคุมไฟป่า เพื่อป้องกันการประทุหรือการกลิ้งของถ่านไม้และตอไม้

IRPC ตระหนักถึงภารกิจอันสำคัญยิ่งของกรมป่าไม้เพื่อปกป้องผืนป่าของประเทศ ประกอบกับบริษัทฯ มีแนวทางในการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ควบคู่ไปกับการดูแลชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ดังนั้น เพื่อเป็นการสนับสนุนชุดปฏิบัติการพิเศษควบคุมไฟป่า (เหยี่ยวไฟ) ที่จัดตั้งโดยสำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้กระทรวงทรัพยากรและธรรมชาติ ให้มีอุปกรณ์ช่วยส่งเสริมการปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ IRPC จึงขอมอบ ถังน้ำมันเปล่าที่ไม่ใช้งานแล้ว เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยบรรเทาปัญหาไฟป่า ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญของประเทศ ที่สร้างความเสียหายต่อผืนป่า สัตว์ป่า ชุมชน และส่งผลกระทบต่อปัญหาโลกร้อน ซึ่งเป็นวิกฤตที่ส่งผลกระทบต่อคนทั้งโลก เพราะไฟป่าก่อให้เกิดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกในปริมาณมากขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ และในขณะเดียวกันปัญหาโลกร้อนก็เป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดไฟป่าด้วยเช่นกัน จากอุณหภูมิที่สูงขึ้นและความแห้งแล้ง หากสามารถหยุดหรือป้องกันไฟป่าได้ ก็จะสามารถปกป้องผืนป่า  และทรัพยากรธรรมชาติให้คงไว้ซึ่งความสมดุลของระบบนิเวศ สภาพภูมิอากาศ รวมถึงบรรเทาวิกฤตโลกร้อนได้อีกด้วย…

จิรัฏฐ์นนท์ ฐิตะสิริ / ระยอง

ไออาร์พีซี ร่วมใจสู้ภัย Covid-19 สนับสนุนอุปกรณ์ทางการแพทย์

ไออาร์พีซี ร่วมใจสู้ภัย Covid-19 สนับสนุนอุปกรณ์ทางการแพทย์

เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2564 นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง รับมอบอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อป้องกันและลดการแพร่ระบาดเชื้อไวรัส Covid-19 โดยมี นายรัฐพล  อุณากัณฑ์พร  ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานโครงสร้างสาธารณูปโภค โลจิสติกส์และปฏิบัติการเพื่อความเป็นเลิศ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) เป็นผู้แทนมอบในนามกลุ่ม ปตท. ที่มีนโยบายและภารกิจสำคัญร่วมกันเพื่อช่วยเหลือประชาชนชาวระยองต้านภัยเชื้อไวรัส Covid-19 ณ ศูนย์ดำรงธรรม ศาลากลาง จังหวัดระยอง

จิรัฏฐ์นนท์ ฐิตะสิริ ระยอง

IRPC เปิดตัว “สวนโซลาร์ลอยน้ำ” ใหญ่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

  

IRPC เปิดตัว “สวนโซลาร์ลอยน้ำ” บนพื้นที่ 200 ไร่ กำลังผลิตไฟฟ้า 12.5 เมกะวัตต์ เสริมความมั่นคงพลังงานในเขตอุตสาหกรรม IRPC แถมเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลั่นใหญ่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เผยทุ่นลอยน้ำเป็นนวัตกรรมเม็ดพลาสติก HDPE ช่วยลดอุณหภูมิใต้แผงโซลาร์เซลล์ได้ถึง 5-8 องศา

    

นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานกรรมการ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC กล่าวว่า “IRPC ได้เล็งเห็นถึงโอกาสในการพัฒนาการผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนของประเทศไทย สวนโซลาร์ลอยน้ำ IRPC จ.ระยอง จึงถือเป็นต้นแบบที่สำคัญสำหรับการพัฒนาโครงการด้านพลังงานสะอาดที่สามารถนำไปต่อยอดพัฒนาอุตสาหกรรมพลังงานของชาติ        สอดรับกับนโยบายรัฐในการใช้พลังงานหมุนเวียน และด้วยนวัตกรรมเม็ดพลาสติกของ IRPC ซึ่งผลิตภายในประเทศ ส่งเสริม        ภาคเศรษฐกิจ พร้อมการบูรณาการสร้างคุณค่าด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม”

นายนพดล ปิ่นสุภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ IRPC เปิดเผยว่า “บริษัทฯ ได้ทำการติดตั้งทุ่นโซลาร์ลอยน้ำ (Floating Solar) ในบ่อน้ำดิบสำรองของบริษัทฯ บนพื้นที่ 200 ไร่ มีกำลังการผลิตไฟฟ้าขนาด 12.5 เมกะวัตต์ (MW) ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าเสริมความมั่นคงให้กับเขตประกอบการอุตสาหกรรม IRPC จ.ระยอง  ซึ่งถือเป็นนวัตกรรมที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการทำธุรกิจ  โดยให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อมและช่วยลดภาวะโลกร้อน”

สำหรับจุดเด่นของสวนโซลาร์ลอยน้ำ IRPC นี้ คือทุ่นลอยน้ำ ซึ่งเป็นนวัตกรรมเม็ดพลาสติก HDPE (High Density Polyethylene หรือ โพลิเอทิลีนความหนาแน่นสูง) เกรดพิเศษสีเทา แบรนด์ “POLIMAXX” ของ IRPC มีคุณสมบัติช่วยลดอุณหภูมิใต้แผงโซลาร์เซลล์ได้ถึง 5-8 องศา ส่งผลให้ระบบผลิตกระแสไฟฟ้ามีประสิทธิภาพสูง ทนทานต่อแสง UV และทนต่อแรงกระแทก โดยมีอายุการใช้งานของวัสดุยาวนานถึง 25 ปี ซึ่งปลอดภัยต่อระบบนิเวศใต้น้ำ ผ่านการทดสอบ Food Grade ขององค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา (US FDA)

ขณะเดียวกันก็เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสามารถนำกลับมารีไซเคิลได้  ช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงได้ถึง 10,510 ตัน หรือเทียบเท่าการปลูกป่าราว 10,000 ต้น นอกจากนี้ยังเป็นการใช้ประโยชน์จากพื้นที่ผิวน้ำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และทำหน้าที่เป็นพื้นที่รับน้ำ หรือ “แก้มลิง” ช่วยบริหารจัดการน้ำท่วมน้ำแล้งในเขตอำเภอเมือง จ.ระยอง 

นายอนันต์ นาคนิยม รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง กล่าวว่า “ปัจจุบันทั้งภาครัฐและภาคเอกชนของไทยหันมาให้ความสำคัญกับพลังงานสะอาด โดยการใช้พลังงานทางเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพิ่มมากขึ้น ซึ่งประเทศไทยมีพื้นที่บนผิวน้ำคิดเป็นร้อยละ 3 ของพื้นที่ประเทศ (ประมาณ 9 ล้านไร่) ดังนั้น หากสามารถนำพื้นที่เหล่านี้มาใช้ประโยชน์อย่างเต็มประสิทธิภาพ ประเทศชาติก็จะได้รับประโยชน์จากพลังงานทดแทนได้มากขึ้น “โครงการสวนโซลาร์ลอยนํ้า IRPC”  จึงนับเป็นความสำเร็จด้าน         การวิจัยและการพัฒนานวัตกรรม ที่ช่วยสร้างพลังงานสะอาด ซึ่งจะทำให้เกิดความยั่งยืนกับจังหวัดระยอง และสร้างผลดี                  ต่อสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจของชาติ”

            ปัจจุบันสวนโซลาร์ลอยน้ำ IRPC จ.ระยอง เปิดเป็นแหล่งสันทนาการให้ประชาชนมาออกกำลังกาย  ซึ่งในอนาคต           จะพัฒนาเป็นสถานที่พักผ่อนเพื่อให้พี่น้องชาวระยองได้ใช้ประโยชน์ต่อไป 

หัวใจอาสาไออาร์พีซี เก็บขยะชายหาดแหลมรุ่งเรือง 

หัวใจอาสาไออาร์พีซี เก็บขยะชายหาดแหลมรุ่งเรือง

วันที่ 22 ตุลาคม 2563 พนักงานหัวใจอาสาไออาร์พีซีร่วมกับชุมชนกว่า 400 คน ดำเนินกิจกรรมเก็บขยะชายหาดแหลมรุ่งเรือง ได้น้ำหนักขยะรวมกว่า 2,500 กิโลกรัม กิจกรรมเก็บขยะชายหาดแหลมรุ่งเรืองนี้ ดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์-ตุลาคม รวมน้ำหนักขยะที่เก็บได้ทั้งหมดกว่า 5,000 กิโลกรัม

ไออาร์พีซี มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการดูแลชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อมด้วยความห่วงใย แบ่งปัน และ ใส่ใจ เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนตลอดไป