BLCP

บีแอลซีพีรับรางวัลสถานประกอบกิจการดีเด่น 11ปีซ้อน

เมื่อวันที่ 31ต.ค.65 ที่ห้องประชุมณ ห้องภักดีศรีสงคราม ศาลากลางจังหวัดระยอง นายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลสถานประกอบกิจการดีเด่นด้านแรงงานสัมพันธ์และสวัสดิการแรงงาน ให้กับบริษัท บีแอลซีพีเพาเวอร์ จำกัด โดยมีณพงษ์ธวัช แกล้วกล้า ประธานคณะกรรมการสวัสดิการ เป็นผู้แทนรับมอบรางวัล ซึ่งBLCP ได้รับรางวัลต่อเนื่องเป็นปีที่ 11

BLCP ตระหนักถึงสุขภาพกาย สุขภาพใจ ยกระดับคุณภาพชีวิต เพิ่มดัชนีความสุข รวมทั้งคำนึงถึงความปลอดภัยของพนักงาน อาทิ การดูแลพนักงานในที่อับอากาศหรืองานที่มีความเสี่ยงสูง ให้มีการเตรียมพร้อมอุปกรณ์ในการช่วยเหลือในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน การติดตั้งนั่งร้านที่มีความมั่นคงและปลอดภัยในการปฎิบัติงานทั้งผู้รับเหมาและพนักงาน และยังมีโครงการต่างๆในการพัฒนาบุคลิกภาพ ด้วยความรู้ด้านโภชนาการเพื่อให้รู้หลักการกินในการลดภาวะอ้วนลงพุง การจัดการความเครียดจากการทำงานโดยจัดให้มีคลินิกปรึกษาจิตแพทย์อย่างต่อเนื่องทุกวัน เป็นต้น

บริษัท บีแอลซีพี เพาเวอร์ จำกัด (BLCP) มุ่งสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนตามแนวคิด ESG ที่คำนึงถึงความรับผิดชอบ 3 ด้านหลัก คือ สิ่งแวดล้อม สังคม การกำกับดูแล (Environment, Social, Governance) เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนแห่งสหประชาชาติ (UN Sustainable Development Goals; SDGs) ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน เป้าหมายที่ 3 : Good Health and Well Being ส่งเสริมการทำงานที่ปลอดภัยในบริษัท และเป้าหมายที่ 4 Quality Education สนับสนุนโอกาสในการเรียนรู้ตลอดชีวิต

บีแอลซีพี ร่วมสร้างสังคมน่าอยู่ เคียงคู่ชุมชนและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

BLCP คว้ารางวัลสถานประกอบการธรรมาภิบาลสิ่งแวดล้อม ประจำปีงบประมาณ 2564

23 มีนาคม 2565 – นายยุทธนา เจริญวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีแอลซีพี เพาเวอร์ จำกัด (BLCP) ได้เข้ารับรางวัลสถานประกอบการที่ผ่านเกณฑ์ธรรมาภิบาลสิ่งแวดล้อม ประจำปีงบประมาณ 2564 จากสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดระยอง เพื่อแสดงให้เห็นว่า BLCP เป็นผู้ประกอบการที่มีหลักการธรรมาภิบาลที่ดี ประกอบด้วย 7 หลัก คือ ประชาชนเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร ประชาชนมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหา มีความโปร่งใส มีความรับผิดชอบต่อสังคม รวมทั้งปฎิบัติตามหลักนิติธรรม ความยุติธรรม และความยั่งยืน

BLCP ได้นำหลักธรรมาภิบาลสิ่งแวดล้อมมาปฏิบัติในการประกอบกิจการให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดโดยมีนโยบายการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นระบบ ได้มาตรฐานตามกฎหมายและข้อกำหนดต่างๆ รวมทั้งจัดทำโครงการดูแลรับผิดชอบต่อสังคมอย่างต่อเนื่องและมุ่งมั่นที่จะประกอบกิจการโดยคำนึงถึงการจัดการด้านมลภาวะอย่างถูกต้องตามกฎหมาย สามารถเปิดเผยข้อมูลการจัดการมลภาวะอย่างโปร่งใส ตามแผนการขจัดและลดมลพิษและมีส่วนร่วมในการดูแลสิ่งแวดล้อมร่วมกับชุมชนในพื้นที่ให้มีประสิทธิภาพ อย่างยั่งยืน…

THE LIGHTER THAILAND…///

BLCPจัดกิจกรรมปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ

บริษัท บีแอลซีพี เพาเวอร์ จำกัด (BLCP) จัดกิจกรรมปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ ต่อเนื่องเป็นปีที่ 19 สานพันธกิจเครือข่ายเข้มแข็ง ร่วมกันเพิ่มทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งพื้นที่จังหวัดระยอง ประจำปี 2564

 

วันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2564 – นายอรัญ ใจตั้ง รองนายกเทศมนตรีเมืองมาบตาพุด ประธานในพิธีฯ ร่วมกิจกรรมปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ (จัดขึ้นเป็นประจำทุกๆ ปี ปีละ 9 ครั้ง และต่อเนื่องเป็นปีที่ 19) โดยในปีนี้ BLCP ได้จัดกิจกรรมในรูปแบบออนไลน์ เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดจากการแพร่ระบาดของCOVID-19

BLCP ร่วมกับวิสาหกิจชุมชน ชมรมประมงเรือเล็กพื้นบ้าน อ.เมืองและอ.บ้านฉางสามัคคี กลุ่มบริษัท จีพีเอสซี, บริษัท เอสซีจี เคมีคอลส์ จำกัด, กลุ่มบริษัท ปตท., สำนักงานท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด, บริษัท สตาร์ ปิโตเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน), บริษัท กรุงเทพ ซินธิติกส์ จำกัด บริษัท โคเวสโตร (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท ไทยอาซาฮีเคมีภัณฑ์ จำกัด ร่วมกันจัด “พิธีปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ เพิ่มทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งพื้นที่จังหวัดระยอง” เพื่อเป็นการปลูกฝังจิตสำนึกด้านการดูแลและรักษาสิ่งแวดล้อม เพิ่มศักยภาพการผลิตสัตว์น้ำในทะเลและชายฝั่ง สร้างอาชีพ รายได้ที่มั่นคง และความยั่งยืนให้กับประชาชนจังหวัดระยอง

 

แม้ว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19 จะยังคงมีอยู่ แต่กลุ่มผู้ประกอบการอุตสาหกรรมมาบตาพุด ยังดำเนินการขับเคลื่อนกิจกรรมตามพันธกิจที่มีร่วมกันกับเครือข่ายที่มีทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน (ผู้ประกอบการอุตสาหกรรม)และชุมชนในพื้นที่มาตั้งแต่ต้น โดยกิจกรรมในครั้งนี้จัดในรูปแบบออนไลน์ เพื่อเป็นไปตามมาตรการป้องกันโควิด-19 โดยผู้ที่สนใจรับชมบรรยากาศของกิจกรรม สามารถรับชมย้อนหลังผ่านทางเฟสบุ๊คแฟนเพจ ครอบครัวข่าว 3 ระยอง

 

กิจกรรมครั้งนี้ถือเป็นกิจกรรมที่มุ่งมั่นที่จะรักษาสิ่งแวดล้อมทางทะเล เพื่อเพิ่มปริมาณพันธุ์สัตว์น้ำที่อาศัยอยู่ในทะเล สร้างสมดุลระบบนิเวศวิทยา และเพิ่มรายได้ให้กับกลุ่มประมงโดยรอบอย่างยั่งยืน จำนวนพันธุ์สัตว์น้ำที่ปล่อยลงสู่ทะเล มี 2 ชนิด คือ กุ้งกุลาดำ จำนวน 300,000 ตัว และลูกไรปูม้า จำนวน 3,500,000 ตัว
โดยพันธุ์สัตว์น้ำทั้งหมดนี้นำมาจากฟาร์มเพาะพันธุ์สัตว์น้ำกลุ่มประมงเรือเล็กบ้านพยูน ภายใต้วิสาหกิจชุมชนประมงเรือเล็กพื้นบ้าน อ.เมือง และ อ.บ้านฉางสามัคคี

 

BLCP ร่วมสร้างสรรค์สังคมน่าอยู่ เคียงคู่ชุมชนและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน…

THE LIGHTER  THAILAND…

BLCPจับมือกลุ่มวิสาหกิจชุมชนประมงเรือเล็กตากวน- อ่าวประดู่ จ.ระยอง พัฒนาผลิตภัณฑ์

BLCPจับมือกลุ่มวิสาหกิจชุมชนประมงเรือเล็กตากวน-อ่าวประดู่ จ.ระยองพัฒนาผลิตภัณฑ์แปรรูปหอยแมลงภู่คุณภาพดีจากทะเลไทย
  บริษัท บีแอลซีพี เพาเวอร์ จำกัด (BLCP) ให้ความสำคัญต่ออาชีพของกลุ่มประมงเรือเล็กในพื้นที่ และเนื่องจากปัญหาเรื่องค่าน้ำมันแพงในการออกหาปลาแต่ละครั้ง จึงได้หารือกับกลุ่มประมงเรือเล็ก และริเริ่มโครงการ “เพาะเลี้ยงหอยแมลงภู่แบบแขวน”ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2548 ถึงปีปัจจุบัน (พ.ศ. 2564) รวม 17 ปีต่อเนื่อง

โดยบริษัทฯ ได้ว่าจ้างผู้ชำนาญการมาฝึกอบรมและสอนวิธีเพาะเลี้ยงหอยแมลงภู่ด้วยตนเอง เพื่อให้ชาวประมงมีองค์ความรู้จากการทำแพเพาะเลี้ยงหอยแมลงภู่
นำไปสู่การสร้างอาชีพและรายได้อย่างต่อเนื่อง ปัจจุบัน ชาวประมงผู้ประกอบอาชีพแพเพาะเลี้ยงหอยแมลงภู่แบบแขวน ประกอบด้วย กลุ่มประมงเรือเล็กตากวน-อ่าวประดู่ จำนวน 73 ราย กลุ่มประมงพื้นบ้านปากคลองตากวน จำนวน 11 ราย และกลุ่มประมงเรือเล็กหาดแสงเงิน จำนวน 7 ราย รวมจำนวน 91 ราย ถือเป็นแหล่งเพาะเลี้ยงหอยแมลงภู่รายใหญ่ที่สำคัญของ จ. ระยอง โดยเฉพาะบริเวณตากวน- อ่าวประดู่สามารถผลิตหอยแมลงภู่ โดยเฉลี่ย 5 ตัน/ราย/รอบการผลิต ในแต่ละปีสามารถผลิตหอยแมลงภู่ รวมประมาณ 350 ตัน/ปี จากประสบการณ์และความชำนาญที่เพิ่มมากขึ้น กลุ่มวิสาหกิจชุมชนประมงเรือเล็กตากวน- อ่าวประดู่ ได้เพิ่มมูลค่าหอยแมลงภู่ โดยพัฒนาผลิตภัณฑ์หอยแมลงภู่แปรรูป อุตสาหกรรมระดับครัวเรือน เพื่อต่อยอดอาชีพและสร้างรายได้ให้เพิ่มขึ้นอีกทางหนึ่ง โดยมีรสชาติที่อร่อยถูกปาก เก็บไว้ได้นาน เป็นของทานเล่น เป็นกับแกล้ม หรือนำไปปรุงอาหาร เช่น ยำหอยแมลงภู่อบแห้ง เป็นต้น


ผลิตภัณฑ์หอยแมลงภู่แปรรูปมีดังนี้ ข้าวเกรียบหอยแมลงภู่ (แบบนำไปทอดเอง) ครึ่งกิโลกรัม 150 บาท สั่ง 1 กิโลกรัม ส่งฟรีหอยแมลงภู่ตากแห้ง ครึ่งกิโลกรัม 300 บาท สั่ง 1 กิโลกรัม ส่งฟรี หอยแมลงภู่ทอดกรอบปรุงรส รสดั้งเดิม รสต้มยำ รสหมาล่า ถุงละ 50 บาท ไม่รวมค่าจัดส่ง

สามารถสั่งซื้อได้ที่: กลุ่มวิสาหกิจชุมชนประมงเรือเล็กตากวน-อ่าวประดู่ จ. ระยอง
คุณนิตยา ไทยวงษ์ โทร.089-831-2954 หรือ Facebook : Mrs. Hoi หอยแมลงภู่ทอดกรอบ

BLCP เดินหน้าฟื้นฟูระบบนิเวศบริเวณเกาะสะเก็ด            จ. ระยอง ภายใต้โครงการ “รักษ์หญ้าทะเลกับบีแอลซีพี”

บริษัท บีแอลซีพี เพาเวอร์ จำกัด (BLCP) เดินหน้าฟื้นฟูแหล่งหญ้าทะเล สร้างความสมบูรณ์ให้ระบบนิเวศใต้ท้องทะเลโดยรอบเกาะสะเก็ด รวมทั้งยกระดับรายได้ให้กลุ่มประมงเรือเล็กพื้นบ้านและชุมชนในพื้นที่ โดยการพัฒนาอาชีพเสริมเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ 

“เกาะสะเก็ด”  เกาะเล็กๆ ที่มีความสวยงาม  อยู่ห่างจากหาดสุชาดาและหาดทรายทองเพียงไม่กี่กิโลเมตร มีขนาดพื้นที่บนเกาะประมาณ 30 ไร่ ตั้งอยู่ในตำบลมาบตาพุด จังหวัดระยอง อยู่ห่างจากโรงไฟฟ้าบีแอลซีพีประมาณ 500 เมตร ในอดีตเกาะสะเก็ดได้ชื่อว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลที่มีชื่อเสียงของ จ. ระยอง มีความอุดมสมบูรณ์ด้านพันธุ์ไม้ต่างๆ อาทิ ปะการัง และหญ้าทะเล โดยเฉพาะ “หญ้าทะเล” เป็นกลุ่มประเภทพืชดอกเพียงกลุ่มเดียวที่มีวิวัฒนาการสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ในทะเล โดยมีลักษณะโครงสร้างภายนอกคล้ายคลึงกับหญ้าที่เจริญอยู่บนบก และมีบทบาทหน้าที่สำคัญต่อระบบนิเวศอย่างมาก เพราะจัดว่าเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยและแหล่งอาหารอันอุดมสมบูรณ์ของสัตว์ทะเลและสัตว์น้ำเศรษฐกิจ ได้แก่ กุ้ง หอย ปู และปลา และถือเป็นอาหารสำคัญของพะยูนและเต่าทะเล รวมทั้งเป็นแหล่งวางไข่ แหล่งอนุบาลตัวอ่อน และที่อยู่อาศัยของปลา กุ้ง หมึก ปูม้า หอยชนิดต่างๆ ไส้เดือนทะเล ตลอดจนสัตว์เล็กๆ นานาชนิด รวมทั้งเป็นแหล่งอาหารและแหล่งทำมาหากินที่สำคัญของกลุ่มประมงเรือเล็ก จ.ระยอง

 

ปัจจุบัน BLCP ได้มีการลงนามบันทึกความร่วมมือโครงการปลูกหญ้าทะเลเพื่ออนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรบริเวณเกาะสะเก็ด ตำบลมาบตาพุด อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง โดยได้รับความร่วมมือระหว่าง สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1, ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยฝั่งตะวันออก และเทศบาลเมืองมาบตาพุด ภายใต้โครงการ     ”รักษ์หญ้าทะเลกับบีแอลซีพี” ซึ่ง BLCP ได้เดินหน้าอย่างต่อเนื่องในการฟื้นฟูแหล่งหญ้าทะเล โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 15-16 พ.ค. 2564 ได้ทำการจ้างกลุ่มประมงในพื้นที่ดำเนินการปลูกหญ้าทะเล ในพื้นที่ 1.5 ไร่ จำนวน 2,600 กอ ณ บริเวณเกาะสะเก็ด ซึ่งมีเป้าหมายการปลูกในปี 2564 อยู่ที่จำนวน 10 ไร่ เพื่ออนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรบริเวณเกาะสะเก็ดและเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศทางทะเลอย่างต่อเนื่อง

 

BLCP เล็งเห็นถึงความสำคัญในการฟื้นฟูแหล่งหญ้าทะเลเพื่อสร้างความสมบูรณ์ของระบบนิเวศโดยรอบเกาะสะเก็ด รวมทั้งปลูกจิตสำนึกในอนุรักษ์หญ้าทะเล มุ่งเน้นกระบวนการมีส่วนร่วมในทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นภาคเอกชน ชุมชนในท้องถิ่น และหน่วยงานราชการ ตลอดจนองค์กรที่เกี่ยวข้อง ซึ่งถือว่าเป็นผลดีต่อประเทศชาติทั้งในแง่ของการมีทรัพยากรทางทะเลที่เพิ่มขึ้น มีแหล่งอาหารที่อุดมสมบูรณ์ มีแหล่งอาชีพให้ชุมชน และยังดึงดูดให้คนนอกพื้นที่อยากมาเที่ยวชมเกาะสะเก็ดมากขึ้น นับว่าเป็นการยกระดับรายได้ให้กลุ่มประมงเรือเล็กพื้นบ้านและชุมชนในพื้นที่ ได้มีรายได้เพิ่มจากการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ สร้างความเข้มแข็งทางสังคมและเศรษฐกิจของชุมชนอย่างยั่งยืน

จิรัฏฐ์นนท์ ฐิตะสิริ ระยอง

 

บีแอลซีพี พัฒนาคุณภาพชีวิตเกษตรกร จ. ระยอง จากเคมีสู่เกษตรอินทรีย์ วิถีพอเพียง

 

บริษัท บีแอลซีพี เพาเวอร์ จำกัด (BLCP) เล็งเห็นถึงความสำคัญในการคืนสุขภาพที่ดีสู่ชุมชนและสิ่งแวดล้อม จึงน้อมนำแนวทางเกษตรทฤษฎีใหม่ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 มาเป็นแนวทางในการส่งเสริมให้เกษตรกรรู้จักการออกแบบการใช้พื้นที่ทางการเกษตรให้คุ้มค่า เปลี่ยนจากเกษตรเชิงเดี่ยวมาเป็นเกษตรผสมผสาน เปลี่ยนการใช้ปุ๋ยเคมีและยาฆ่าแมลง มาเป็นปุ๋ยอินทรีย์และสารสกัดจากพืชท้องถิ่น จนเกิดเป็น “โครงการเกษตรอินทรีย์วิถีพอเพียง” เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของเกษตรกรในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า และสร้างความยั่งยืนให้กับอาชีพเกษตรกรรม

 

BLCP เดินหน้าสนับสนุนเกษตรกรมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี2558 จนถึงปัจจุบัน โดยสนับสนุนกลุ่มเกษตรกรในเขตเทศบาลเมืองมาบตาพุด จ.ระยอง ซึ่งประกอบด้วย ชุมชนโขดหินมิตรภาพ ชุมชนโขดหิน 2  และชุมชนเขาไผ่ ให้ปรับการทำเกษตรแบบเดิมที่มีการใช้สารเคมีมาเป็นระยะเวลานาน ส่งผลให้สภาพดินเสื่อมโทรม โรคพืชและโรคแมลงรบกวนทำลายผลิตผลทางการเกษตร  รวมทั้งส่งผลให้สุขภาพร่างกายเกษตรกรไม่แข็งแรง โดยปรับใช้แนวทางเกษตรอินทรีย์วิถีพอเพียง ในพื้นที่ทั้งสิ้น 57 ไร่ ที่ได้ผ่านการรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ (มกษ.9000)  โดยBLCPได้จัดหาวิทยากรมาอบรมให้ความรู้ในหลายเรื่อง เช่น สอนการทำวัสดุบำรุงดิน การสังเกตโรคพืช การทำน้ำหมักจุลินทรีย์เพื่อบำรุงใบ ดอก ผล ไล่แมลง และรักษาโรคพืช การต่อเชื้อจุลินทรีย์จากราใบไม้สีขาว และการเก็บตัวอย่างดินเพื่อประเมินความอุดม

สมบูรณ์ของดิน

 

เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการสามารถนำทรัพยากรที่มีอยู่ในพื้นที่มาปรับใช้ในการทำการเกษตรและช่วยลดต้นทุนให้กับเกษตรกรได้อีกทางหนึ่ง คืนความมั่นใจและดึงความรู้ตามแบบภูมิปัญญาดั้งเดิมที่สูญหายไป ให้กลับคืนมาสู่การรับรู้ของเกษตรกร ซึ่งเป็นการสร้างความภูมิใจในท้องถิ่นของตน นอกเหนือไปจากการประสานความเข้าใจระหว่างคนรุ่นเก่ากับคนรุ่นใหม่ ทำให้คนต่างรุ่นมีปฏิสัมพันธ์และเปิดใจเรียนรู้จากกันและกันได้มากขึ้น โครงการนี้จึงไม่เพียงแค่จะเป็นการคืนสุขภาวะให้กับชุมชนและสิ่งแวดล้อม ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ แต่ยังเป็นการสร้างความร่วมมือและความเข้มแข็งให้กับชุมชน  โดยมีเป้าหมายเพื่อขยายองค์ความรู้ด้านเกษตรอินทรีย์ สู่แปลงเกษตรในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองมาบตาพุด และจังหวัดระยอง ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถเข้าศึกษาดูงาน ณ ที่ทำการศูนย์การเรียนรู้เกษตรอินทรีย์วิถีพอเพียงได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยติดต่อไปที่ ประธานวิสาหกิจชุมชนเกษตรอินทรีย์โขดหิน-เขาไผ่ คุณสุดา จิตรดล โทร. 095 252 4219

จิรัฏฐ์นนท์ ฐิตะสิริ ระยอง

มารู้จัก “เต่าทะเล” สัตว์โลกล้านปีใกล้วันสูญพันธุ์

มารู้จัก “เต่าทะเล” สัตว์โลกล้านปีใกล้วันสูญพันธุ์



  

“ระยอง” อีกหนึ่งจังหวัดยอดนิยมทางภาคตะวันออกของไทยที่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่จัดว่าเป็นแลนด์มาร์คที่ทุกคนควรมาเยือน ไม่ว่าจะเป็น ศูนย์การเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลนพระเจดีย์กลางน้ำ, อุทยานแห่งชาติ“เขาแหลมหญ้า” หรือ ทะเลแหวก เกาะมันใน ที่อะเมซิ่งสุดๆ เพราะใครๆ ก็คาดไม่ถึงว่าจะมีทะเลแหวกสวยๆ แบบนี้ในทะเลฝั่งตะวันออกด้วย นอกจากที่เกาะมันในแห่งนี้จะมีทะเลแหวกให้ชมแล้ว ที่นี่ยังเป็นศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล และเป็นสถานที่อนุบาลลูกเต่าทะเลก่อนจะปล่อยลงสู่ทะเล ซึ่งมีทั้งส่วนของอาคารพิพิธภัณฑ์เต่าทะเลไว้ให้ความรู้เรื่องเต่า และบ่อเลี้ยงเต่าช่วงวัยต่างๆ ก่อนจะปล่อยลงสู่ทะเล อย่าลืมแวะมาหาความรู้และชมความน่ารักของเต่าทะเลไทย ที่เกาะมันใน จ.ระยอง



 

เต่าทะเล จัดเป็นสัตว์ประเภทเลื้อยคลานที่หายากและใกล้สูญพันธุ์ ในปัจจุบันมีแนวโน้มว่าจะสูญพันธุ์ในไม่ช้า เต่าทะเลทั่วโลกมีทั้งหมด 8 ชนิด แต่พบในไทยเพียง 5 ชนิด ได้แก่ เต่าตนุ เต่ากระ เต่าหญ้า เต่าหัวฆ้อน  และเต่ามะเฟือง ซึ่งทั้งหมดถือเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าในปี พ.ศ.2535 

 

บริษัท บีแอลซีพี เพาเวอร์ จำกัด (BLCP) เล็งเห็นความสำคัญของความ สัมพันธ์ของสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศทางทะเล รวมทั้งการอนุรักษ์สัตว์ทะเลหายากโดยเฉพาะเต่าทะเลที่ใกล้สูญพันธุ์  ดังนั้นในปี 2564 ทาง BLCP จึงได้ริเริ่มการอนุบาลเต่าทะเล โดยเบื้องต้นได้ร่วมกับศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยฝั่งตะวันออก กรมทรัพยากรทางทะเล และชายฝั่ง จ.ระยอง สนับสนุนกิจกรรมเต่าทะเล เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 60,000 บาท เพื่อเป็นค่าอาหาร ค่ารักษาพยาบาลเต่า ณ เกาะมันใน จ.ระยอง

 

นอกจากนี้ โรงพยาบาลสัตว์ทะเลหายาก ภายใต้การดูแลของ ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยฝั่งตะวันออก  จัดเป็นสถานดูแลอภิบาลสัตว์ทะเลหายากที่เกยตื้น ไม่ว่าจะเป็นโลมา ปลาวาฬ รวมไปถึงเต่าทะเล โดยสาเหตุจากการเกยตื้นได้แก่ ป่วย, หลงทิศ, กินขยะทะเล และโดนจับด้วยเครื่องมือประมง ทำให้สัตว์ทะเลเหล่านี้บาดเจ็บและป่วย โดยที่สัตว์ทะเลที่เกยตื้นมากที่สุดคือเต่าทะเลนั่นเอง

 

ในปัจจุบันทางโรงพยาบาลสัตว์ทะเลหายาก จ.ระยอง ยังขาดแคลนทุนทรัพย์ในการจัดหาอุปกรณ์และเครื่องมือการแพทย์ที่สำคัญในการรักษาสัตว์ทะเลหายากเกยตื้น ไม่ว่าจะเป็นในส่วนการปรับปรุงห้องทำงานคุณหมอและห้องปฎิบัติการ การสนับสนุนเครื่อง  Vet state เครื่องชั่งน้ำหนักกันน้ำ ขนาด 300 กิโลกรัม, บ่อพักรักษาสัตว์ขนาดใหญ่ (ขนาด 5,000-6,000 ลิตร) เครื่องตรวจ Blood gas analysis เพื่อวัดปริมาณสารเคมีในเลือดเครื่องตรวจค่าเคมีในเลือด และเครื่องตรวจนับจำนวนเซลล์เม็ดเลือด ดังนั้นหากท่านใดประสงค์จะช่วยเหลือเต่าทะเลและสัตว์ทะเลหายาก สามารถติดต่อได้โดยตรงที่  ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยฝั่งตะวันออก ที่อยู่ 309 ม.1 ต.ปากน้ำกระแส อ.แกลง จ.ระยอง โทร. 038-661-693-4

จิรัฎฐ์นนท์ ฐิตะสิริ ระยอง