เว็บไซต์

“Press For run on the Beach (สื่อชวนวิ่ง ) วิ่งร่วมบุญ ทำดีด้วยหัวใจ ครั้งที่ 2

วันที่4พฤศจิกายน 2565 นาย ไตรภพ วงศ์ไตรรันต์ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง พร้อมด้วย อาจารย์บัญชาฮาดสม รองประธานผู้ประกอบการหาดแม่รำพึงจังหวัดระยอง นายวัชรพลสานสอน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ททท สำนักงานระยอง นายกิตติพงษ์ สีปิยาารักษ์ ผู้จัดการทั่วไปศูนย์การค้าเซ็นทรัลระยอง ร่วม เป็นประธานในการเปิดกิจกรรมการแถลงข่าว กิจกรรม เดิน-วิ่ง “Press For run on the Beach (สื่อชวนวิ่ง ) วิ่งร่วมบุญ ทำดีด้วยหัวใจ ครั้งที่ 2 จัดโดยโดยกลุ่มพันธมิตรข่าว สื่อมวลชน ร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.สำนักงานจังหวัดระยอง) ณ.ที่ชายทะเลบ้านเพ-สวนสน

ในวันที่ 8 ธันวาคม 2565 เวลา04.00น.-09.00 น. โดยมีระยะทาง ฟันรัน 5 KM /499- รับเหรียญ บิบ มินิมาราธอน 10 KM/599 – และ VIP /2000 – สำหรับท่านที่ สมัคร VIP ประเภทการวิ่ง วีไอพี 2,000 บาท ท่านจะได้รับ เสื้อ เหรียญ (รอยจารบนเหรียญ) บิบ พร้อมเหรียญที่ระลึก ท้าวเวสสุวรรณ วัดศรีวโนภาสสถิตย์พร พระครูบวรสาธุกิจ (หลวงพ่อประเสริฐ) พระอาจารย์จิ้ม จังหวัดระยอง อีก 1 เหรียญ
กิจกรรมในครั้งนี้ เพื่อรณรงค์ในการออกกำลังกาย สร้างเสริมสุขภาพให้แข็งแรง ที่ดีให้แก่ประชาชนทั่วไป เป็นเกาะป้องกันภัยจากโรคโควิด-19 ส่งเสริม สถานที่กิน ที่พัก ชายทะเลระยอง แหล่งท่องเที่ยว ในจังหวัดระยอง ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นกับบุคลทั่วไปและทั่วประเทศ


โดยรายได้ หักค่าใช้จ่าย ช่วยสมทบทุนมอบให้ศูนย์บริการสุขภาพ ฟื้นฟู และดูแลผู้สูงอายุ จังหวัดระยอง จัดสร้างโดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดระยอง เพื่อรองรับการให้บริการดูแลรักษาผู้ป่วยระยะกลาง และผู้ป่วยระยะยาวในจังหวัดระยอง และสมทบทุนในการซื้อวัสดุอุปกรณ์ในการสร้างศาลาวัดศรีวโนภาสสถิตย์พร จังหวัดระยอง
ในกิจกรรม แถลงข่าว มีการจับฉลากแจกบัตรห้องพักฟรีจาก และ โรงแรมสตาร์ ระยอง และจากโรงแรมฟอจูน แสงจันทร์บีช รีสอร์ท ระยอง และการแสดงบนเวลที จากชมรมรักษ์เสียงเพลง คาบาเล่ออมสตาร์โชว์ และชมรมแอโรบิ๊ก บ้านเพ ระยอง โดยมีแขกผู้มีเกียรติ และสื่อมวลชนมาร่วมงานอย่างอบอุ่น
กลุ่มพันธมิตรสื่อมวลชนจังหวัดระยอง ขอเชิญชวนทุกท่าน เข้าร่วมกิจกรรม เดิน-วิ่ง วิ่งร่วมบุญกันในครั้งนี้ ….

สถานการณ์โควิด-19 ระยอง ดีขึ้น วันนี้ติดเชื้อเพิ่มเพียง 1 ราย รวมเสียชีวิตสะสม 7 ราย ยอดสะสม 930 ราย

เมื่อวันที่ 28 พ.ค.64 ศูนย์ปฏิบัติการฯโควิด-19 ระยอง โดยนายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ของจังหวัดระยองว่า วันนี้พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 1 ราย เสียชีวิตสะสม 7 ราย ผู้ป่วยสะสมตั้งแต่วันที่ 8 เม.ย.- 28 พ.ค.64 จำนวน 930 ราย รักษาหายแล้ว 751 ราย มีการค้นหาเชิงรุก 37,385 ราย มีกลุ่มที่ได้รับการกักตัวใน LQ และ HQ จำนวน 1,514 ราย

0715e0&s=1328274-846020″ border=”0″>

โดยผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่พบ 1 รายอยู่ใน ต.มาบยางพร อ.ปลวกแดง โดยความเชื่อมโยงของผู้ป่วยรายใหม่ดังกล่าว มีความเชื่อมโยงกับผู้ติดเชื้อรายก่อนหน้านี้ บุคคลในครอบครัว และเพื่อนร่วมงาน ทั้งนี้จังหวัดระยอง มีการฉีดวัคซีนต้านโควิดให้ประชาชนในพื้นที่แล้ว จำนวน 33,428 ราย และประชาสัมพันธ์ให้ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป และผู้ป่วย 7 โรคเรื้อรัง ลงทะเบียนรับการฉีดวัคซีนเริ่ม 1 พ.ค.นี้ เริ่มฉีด 7 มิ.ย.และเชิญชวนให้ประชาชนทั่วไป อายุ 18-59 ปี เริ่มลงทะเบียน 31 พ.ค.นี้ เริ่มฉีด ส.ค.นี้.

วฐิต กลางนอก / จิรัฏฐ์นนท์ ฐิตะสิริ ระยอง

🇹🇭 ในประเทศ ผู้ติดเชื้อรายใหม่ รวม 3,226 รายแยกเป็น ผู้ติดเชื้อใหม่ 2,344 ราย เรือนจำ 882 รายเสียชีวิต 26 รายข้อมูล 25 พ.ค.64

สถานการณ์โควิด-19 ระยอง วันนี้ติดเชื้อเพิ่ม 3 ราย เสียชีวิต 7 ราย ยอดสะสม 903 ราย

เมื่อวันที่ 25 พ.ค.64 ศูนย์ปฏิบัติการฯโควิด-19 ระยอง โดยนายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ของจังหวัดระยองว่า วันนี้พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 3 ราย เสียชีวิต 7 ราย ผู้ป่วยสะสมตั้งแต่วันที่ 8 เม.ย.- 25 พ.ค.64 จำนวน 903 ราย รักษาหายแล้ว 669 ราย มีการค้นหาเชิงรุก 35,021 ราย มีกลุ่มที่ได้รับการกักตัวใน LQ และ HQ จำนวน 1,578 ราย โดยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ใน อ.เมืองระยอง 3 ราย ได้แก่ ต.เชิงเนิน ต.ห้วยโป่ง และ ต.มาบตาพุด โดยความเชื่อมโยงของผู้ป่วยรายใหม่วันนี้ มีความเชื่อมโยงกับผู้ติดเชื้อรายก่อนหน้านี้ บุคคลในครอบครัว และเพื่อนร่วมงาน ทั้งนี้จังหวัดระยอง มีการฉีดวัคซีนต้านโควิดให้ประชาชนในพื้นที่แล้ว จำนวน 32,300 ราย และประชาสัมพันธ์ให้ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป และผู้ป่วย 7 โรคเรื้อรัง ลงทะเบียนรับการฉีดวัคซีนเริ่ม 1 พ.ค.นี้ เริ่มฉีด 7 มิ.ย.และเชิญชวนให้ประชาชนทั่วไป อายุ 18-59 ปี เริ่มลงทะเบียน 31 พ.ค.นี้ เริ่มฉีด ส.ค.นี้

ทั้งนี้ผู้ที่ไปในสถานที่เสี่ยง หรือสัมผัสใกล้ชิดผู้ติดเชื้อให้ไปรับตรวจคัดกรองที่จุดตรวจเนินอุไร สวนศรีเมือง อ.เมืองระยอง.

จิรัฏฐ์นนท์ ฐิตะสิริ ระยอง

ระยอง พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่วันนี้ 12 ราย ยอดสะสม 855 ราย

ระยอง พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่วันนี้ 12 ราย ยอดสะสม 855 ราย

เมื่อวันที่ 20 พ.ค.64 ศูนย์ปฏิบัติการฯโควิด-19 ระยอง โดยนายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ของจังหวัดระยองว่า วันนี้พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 12 ราย เสียชีวิต 7 ราย ผู้ป่วยสะสมตั้งแต่วันที่ 8 เม.ย.- 20 พ.ค.64 จำนวน 855 ราย รักษาหายแล้ว 591ราย มีการค้นหาเชิงรุก 32,633 ราย มีกลุ่มที่ได้รับการกักตัวใน LQ และ HQ จำนวน 1,567 ราย พื้นที่ที่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 4 อำเภอ มี อ.เมืองระยอง 8 ราย อ.บ้านค่าย 2 ราย อ.ปลวกแดง 1 ราย และ อ.บ้านฉาง 1 ราย โดยความเชื่อมโยงของผู้ป่วยรายใหม่วันนี้ มีความเชื่อมโยงกับผู้ติดเชื้อรายก่อนหน้านี้ บุคคลในครอบครัว และเพื่อนร่วมงาน

ทั้งนี้ผู้ที่ไปในสถานที่เสี่ยง หรือสัมผัสใกล้ชิดผู้ติดเชื้อ ให้ไปรับการตรวจคัดกรองกับรถตรวจชีวนิภัยพระราชทานได้ที่ตลาดเนินอุไร สวนศรีเมือง อ.เมืองระยอง.

วฐิต กลางนอก / จิรัฏฐ์นนท์ ฐิตะสิริ ระยอง

GPSC Group ร่วมฝ่าโควิด-19 ระลอกใหม่ สนับสนุนอุปกรณ์ให้กับบุคลากรทางการแพทย์รับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของ เชื้อไวรัสโควิด-19



บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC แกนนำนวัตกรรมธุรกิจไฟฟ้ากลุ่ม ปตท. ส่งมอบความช่วยเหลือให้กับบุคลากรทางการแพทย์รับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ โดยให้ความช่วยเหลือดังนี้



– บริจาคเงินสมทบทุน จัดซื้อเครื่องไฮโฟลว์สำหรับรับมือผู้ป่วย COVID-19 ให้กับศิริราชมูลนิธิ จำนวน 500,000 บาท
– บริจาคเงินสมทบทุน ช่วยเหลือผู้ป่วย COVID-19 ให้กับโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ จำนวน 500,000 บาท

– สนับสนุนเครื่องฟอกอากาศ และเครื่องอบ UV เพื่อป้องกันเชื้อ COVID-19 ให้กับศูนย์การแพทย์ปัญญานันทภิกขุ ชลประทาน มหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒ มูลค่า 100,000 บาท

– สนับสนุนเสื้อกาวน์ป้องกันการติดเชื้อ (PE Gown) จำนวน 6,000 ตัว ให้กับกระทรวงสาธารณสุข มูลค่า 90,000 บาท

– สนับสนุนเสื้อกาวน์ป้องกันการติดเชื้อ (PE Gown) จำนวน 3,750 ชุด ให้กับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดระยอง มูลค่า 56,560 บาท

– สนับสนุนเสื้อกาวน์ป้องกันการติดเชื้อ (PE Gown) จำนวน 2,250 ตัว ให้กับโรงพยาบาลบางละมุง มูลค่า 33,750 บาท



งบประมาณรวมทั้งสิ้น 1,280,310 บาท GPSC Group พร้อมสู้เคียงข้างคนไทย และให้ความช่วยเหลือ แก่บุคลากรทางการแพทย์ที่เป็นด่านหน้าในการรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของ เชื้อไวรัส COVID-19 เพื่อช่วยเหลือประชาชนคนไทยได้อย่างปลอดภัย..

จิรัฏฐ์นนท์ ฐิตะสิริ ระยอง

ระยอง พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่วันนี้ 10 ราย ยอดสะสม 831 ราย

ระยอง พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่วันนี้ 10 ราย ยอดสะสม 831 ราย

เมื่อวันที่ 18 พ.ค.64 ศูนย์ปฏิบัติการฯโควิด-19 ระยอง โดยนายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ของจังหวัดระยองว่า วันนี้พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 10 ราย เสียชีวิต 7 ราย ผู้ป่วยสะสมตั้งแต่วันที่ 8 เม.ย.- 18 พ.ค.64 จำนวน 831 ราย รักษาหายแล้ว 572 ราย มีการค้นหาเชิงรุก 31,739 ราย มีกลุ่มที่ได้รับการกักตัวใน LQ และ HQ จำนวน 1,592 ราย พื้นที่ที่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3 อำเภอ มี อ.ปลวกแดง 6 ราย อ.เมืองระยอง 3 ราย และ อ.บ้านฉาง 1 ราย โดยความเชื่อมโยงของผู้ป่วยรายใหม่วันนี้ มีความเชื่อมโยงกับผู้ติดเชื้อรายก่อนหน้านี้ บุคคลในครอบครัว และเพื่อนร่วมงาน

ทั้งนี้ผู้ที่ไปในสถานที่เสี่ยง หรือสัมผัสใกล้ชิดผู้ติดเชื้อ ให้ไปรับการตรวจคัดกรองกับรถตรวจชีวนิภัยพระราชทานได้ที่ตลาดเนินอุไร สวนศรีเมือง อ.เมืองระยอง.

วฐิต กลางนอก / จิรัฏฐ์นนท์ ฐิตะสิริ ระยอง

ไออาร์พีซี ร่วมใจสู้ภัย Covid-19 สนับสนุนอุปกรณ์ทางการแพทย์

ไออาร์พีซี ร่วมใจสู้ภัย Covid-19 สนับสนุนอุปกรณ์ทางการแพทย์

เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2564 นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง รับมอบอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อป้องกันและลดการแพร่ระบาดเชื้อไวรัส Covid-19 โดยมี นายรัฐพล  อุณากัณฑ์พร  ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานโครงสร้างสาธารณูปโภค โลจิสติกส์และปฏิบัติการเพื่อความเป็นเลิศ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) เป็นผู้แทนมอบในนามกลุ่ม ปตท. ที่มีนโยบายและภารกิจสำคัญร่วมกันเพื่อช่วยเหลือประชาชนชาวระยองต้านภัยเชื้อไวรัส Covid-19 ณ ศูนย์ดำรงธรรม ศาลากลาง จังหวัดระยอง

จิรัฏฐ์นนท์ ฐิตะสิริ ระยอง

จีซี (GC) จับมือ บีไอจี (BIG) มอบออกซิเจนทางการแพทย์ช่วยเหลือวิกฤตโควิดระลอกใหม่

บริษัท บางกอกอินดัสเทรียลแก๊ส จำกัด (บีไอจี : BIG) ในฐานะผู้นำนวัตกรรมก๊าซอุตสาหกรรมของประเทศไทย ร่วมกับ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) (จีซี : GC) ผู้นำในธุรกิจเคมีภัณฑ์เพื่อสร้างสรรค์คุณภาพชีวิต สนับสนุนออกซิเจนทางการแพทย์ให้กับ 5 โรงพยาบาลทั้งกรุงเทพและเขตภาคตะวันออก เพื่อดูแลผู้ป่วยติดเชื้อและผู้ป่วยหนักในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่

นายปฏิภาณ สุคนธมาน   ผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “จากสถานการณ์ดังกล่าว ทั้ง จีซี (GC) และ บีไอจี (BIG) ตระหนักถึงแนวโน้มของสถานการณ์ที่อาจจะเพิ่มภาระการรักษาพยาบาลมากยิ่งขึ้น ทั้งจากจำนวนผู้ป่วยใหม่ที่ต้องเข้ารักษาในสถานพยาบาลทั่วประเทศที่เพิ่มมากขึ้น GC ได้ตัดสินใจสนับสนุนในกระบวนการผลิตออกซิเจนทางการแพทย์ในทันที การร่วมมือของสองบริษัทพันธมิตรในครั้งนี้ เพื่อส่งมอบออกซิเจนทางการแพทย์ให้กับโรงพยาบาลทั้งในพื้นที่จังหวัดระยองซึ่งเปรียบเสมือนบ้านอีกหลังของ GC และในพื้นที่กรุงเทพฯ รวมทั้งสิ้น 5 โรงพยาบาล จำนวนกว่า 360 ตัน เฉลี่ยแล้วสามารถนำออกซิเจนนี้มาดูแลผู้ป่วยวิกฤติได้มากกว่า 400 เตียง”

นายปิยบุตร จารุเพ็ญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บางกอกอินดัสเทรียลแก๊ส จำกัด กล่าวเสริมว่า “บีไอจี (BIG) เป็นผู้ผลิตและให้บริการออกซิเจนทางการแพทย์กับโรงพยาบาลในประเทศไทย เตรียมพร้อมรับสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 บีไอจีได้ Restart โรงแยกอากาศ (Air Separation Unit : ASU) โรงงาน 1 เพื่อเดินเครื่องผลิตและรองรับความต้องการออกซิเจนได้อีก 30% จากความต้องการในปัจจุบัน และในการนี้ได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จาก จีซี (GC)  เพื่อส่งมอบออกซิเจนทางการแพทย์ ความบริสุทธ์ 99% ตามมาตรฐานมอก.”

โดยทั้ง 5 โรงพยาบาลที่ทั้งสองพันธมิตรให้การสนับสนุนออกซิเจนเหลวทางการแพทย์จำนวน 360 ตัน เฉลี่ยแล้วสามารถนำออกซิเจนนี้มาดูแลผู้ป่วยวิกฤติได้มากกว่า 400 เตียงในครั้งนี้ รวมมูลค่ากว่า 10,000,000 บาท ได้แก่

  1. โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ จ.ชลบุรี
  2. โรงพยาบาลแกลง จ.ระยอง
  3. โรงพยาบาลเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จ.ระยอง
  4. โรงพยาบาลเลิดสิน จ.กรุงเทพมหานคร
  5. โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี จ.กรุงเทพมหานคร

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ทวีความรุนแรงขึ้น ทั้งจีซี (GC) และบีไอจี (BIG) ตระหนักถึงความสำคัญและพร้อมที่จะเป็นหน่วยสนับสนุนออกซิเจนทางการแพทย์เพื่อนำไปดูแลรักษาผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และขอเป็นกำลังใจให้บุคลากรทางการแพทย์ และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ให้สามารถปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มศักยภาพในการยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส   โควิด-19

#GCChemistryforBetterLiving
#GCเคมีที่เข้าถึงทุกความสุข

#BIGRestartOxygen_RestartThailand
#BIGInfiniteInnovation

จิรัฏฐ์นนท์ ฐิตะสิริ ระยอง

“ชุมชนเข้มแข็ง” ได้ เมื่อเราผสานพลัง

ภูมิปัญญาชาวบ้านและอัตลักษณ์ท้องถิ่น คือ สิ่งพิเศษที่มีเฉพาะตัวตน หรือ เฉพาะพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง ซึ่งเมื่อได้เรียนรู้แล้วก็จะพบว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจ ยิ่งหากนำความเฉพาะในท้องถิ่นนั้นๆ มาพัฒนาต่อยอดผสานกับนวัตกรรม วิถีชีวิตรูปแบบใหม่ รวมถึงระบบการบริหารจัดการต่าง ๆ ก็ยิ่งสร้างพลังให้เกิดความเข้มแข็งได้อย่างดีเยี่ยม และนั่นคือสิ่งที่ GC หรือ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) มองเห็น และเกิดเป็นแนวคิด “ชุมชนเข้มแข็ง” ที่ต้องการเดินหน้าทำให้ชุมชนนั้นสามารถพึ่งพาตัวเองได้ สร้างรายได้กลับคืนสู่ชุมชน และขยายผลให้ชุมชนในภาพรวมได้ประโยชน์สูงที่สุดอย่างยั่งยืน โดยเราสามารถเชื่อมโยงมิติการส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่น ได้ดังนี้

มิติเศรษฐกิจ ด้านการสร้างงาน สร้างรายได้ให้ชุมชนนั้นสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน ยกตัวอย่างของการสนับสนุนการพัฒนาอาชีพให้กับเกษตรอินทรีย์กลุ่มหอมมะหาด ผู้ปลูกพืชสมุนไพรพื้นถิ่นระยอง ให้นำผลผลิตมาพัฒนาต่อยอดด้วยการแปรรูปวัตถุดิบสมุนไพรโดยวิสาหกิจชุมชนกลุ่มลุฟฟาลา ชุมชนหนองแฟบ ให้เป็นผลิตภัณฑ์ความงามจากธรรมชาติ เพื่อสุขอนามัยและสุขภาพผิวที่ดี LUFFALA สู่มาตรฐานระดับสากล ผ่าน “โครงการ Rayong Organic Living” และการพัฒนาปรับปรุง “ศูนย์การเรียนรู้อาหารถิ่นระยอง ร้านใบชะมวง ภายใต้โครงการเชฟชุมชนชวนกินถิ่นระยอง (ฮิ)” เพื่อให้เป็นศูนย์ฝึกประสบการณ์วิชาชีพและการทำธุรกิจร้านอาหารให้กับนักศึกษาแผนกอาหารและโภชนาการ คณะคหกรรมศาสตร์ วิทยาลัยเทคนิคระยอง เพื่อให้สามารถไปเป็นผู้ประกอบการเองได้ เป็นการสร้างสรรค์คุณภาพชีวิตและกระจายรายได้สู่ชุมชนผู้ผลิตวัตถุดิบของดีในจังหวัดระยอง ไม่ว่าจะเป็นเกษตรกร หรือชาวประมง ทั้งยังเป็นการพัฒนากำลังคนอาชีวศึกษา เพื่อรองรับนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC)  ซึ่งมีเป้าหมายพัฒนาอุตสาหกรรมด้านการท่องเที่ยวและการแปรรูปอาหาร   

มิติสังคม ด้านการบริหารจัดการขยะแบบครบวงจร ฉายภาพไปที่ชุมชนวัดชากลูกหญ้า ซึ่งมีการบริหารจัดการขยะที่ดีภายในชุมชน และ GC เห็นโอกาสที่จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการบริหารจัดการขยะได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มรายได้ให้กับชุมชนอีกด้วย มีการนำระบบ YOUเทิร์น แพลตฟอร์ม ซึ่งเป็นระบบจัดการพลาสติกใช้แล้วแบบครบวงจร ตั้งแต่การรวบรวม การคัดแยกขยะ การขนส่งขยะพลาสติกเข้าสู่ระบบกระบวนการรีไซเคิล และกระบวนการแปรรูปจนได้กลับมาเป็นสินค้าอัพไซคลิง เข้ามาช่วยพัฒนาการบริหารจัดการขยะของชุมชน GC ได้ถ่ายทอดองค์ความรู้ ทั้งเรื่องการคัดแยก การบริหารจัดการขยะอย่างถูกวิธี จนทำให้วันนี้มีการตั้งเป็น “ศูนย์บริหารและจัดการขยะรีไซเคิล ชุมชนวัดชากลูกหญ้า” ซึ่งกลายเป็นต้นแบบการบริหารจัดการขยะอย่างครบวงจรแห่งแรกของจังหวัดระยองที่ชาวชุมชนวัดชากลูกหญ้าภูมิใจ

และสุดท้าย มิติสิ่งแวดล้อม ด้านการดูแลรักษาระบบนิเวศและความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติ ด้วยการเข้าไปช่วยร่วมพัฒนาและต่อยอดภูมิปัญญาท้องถิ่นด้วยนวัตกรรมจากผู้เชี่ยวชาญ GC และเทศบาลเมืองมาบตาพุด จึงได้ร่วมมือกับศูนย์วิศวกรรมสารสนเทศภูมิศาสตร์และนวัตกรรม (KGeo) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) นำระบบเข้ามาช่วยบรรเทาปัญหาน้ำท่วมขังในช่วงฤดูฝนและขาดแคลนน้ำในช่วงฤดูแล้ง ทำให้การปลูกมะม่วงพื้นทรายของเกษตรกรที่ทำมากว่า 50 ปี สามารถคงคุณภาพความอร่อยของผลผลิตตลอดฤดูกาล การันตีด้วยรางวัลรองชนะเลิศ ประเภทมะม่วงผลดิบ “เขียวเสวย” จากการประกวดผลไม้งานเกษตรแห่งชาติ (เกษตรแฟร์) ประจำปี 2563 รวมถึงการพัฒนาช่องทางการขาย Online โดยสร้าง Line Official: “Map Ta Phut Mango” พร้อมเสริมทักษะการขายให้กับเกษตรกร เพื่อให้สวนมะม่วงสามารถจำหน่ายผลผลิตให้ลูกค้าแบบ Pre-Order ได้ รวมถึงช่วยวางระบบบริหารการขนส่ง เพื่อให้สวนสามารถขายผลผลิตได้ทั่วประเทศ (แอบกระซิบว่ามะม่วงอร่อย ๆ มีอีกไม่มากแล้ว รีบจองกันก่อนจะหมดฤดูกาลในเร็วๆ นี้) 

GC และพันธมิตรภูมิใจทีได้เป็นพลังเสริมให้ทุกชุมชนพัฒนาไปสู่การเป็น “ชุมชนเข้มแข็ง” ที่สร้างรายได้กลับคืนสู่ชุมชนและสามารถพึ่งพาตัวเองได้อย่างยั่งยืน

จิรัฏฐ์นนท์ ฐิตะสิริ ระยอง

———————————————–

#ชุมชนเข้มแข็ง

#เคมีเดียวกันสร้างสรรค์ทุกความสุข

#GCCircularLiving

#ChemistryforBetterLiving

ศูนย์บริหารและจัดการขยะรีไซเคิล ชุมชนวัดชากลูกหญ้า ต้นแบบการบริหารจัดการขยะอย่างครบวงจรแห่งแรกของจังหวัดระยอง



 

นิยามของคำว่า “ชุมชน” นั้น อาจสื่อได้ถึง ความร่วมแรงร่วมใจ ความสมานฉันท์ ที่ผู้อยู่อาศัยร่วมกันในชุมชนนั้น ได้ช่วยกันบริหารจัดการ เพื่อให้ชุมชนนั้น ๆ เป็นชุมชนที่น่าอยู่ ชุมชนที่เราจะพาทุกคนเดินทางไปค้นหาความหมายเพิ่มเติมกันในวันนี้ เป็นชุมชนเล็ก ๆ ในประเทศของเราแต่ยิ่งใหญ่ หรือเรียกว่าเป็นต้นแบบด้านการบริหารจัดการขยะแห่งแรกของจังหวัดระยองก็ว่าได้ ชุมชนนี้ คือ “ชุมชนวัดชากลูกหญ้า” แล้วอะไรที่ทำให้ชุมชนแห่งนี้พร้อมใจกันหันมาสนใจเรื่องนี้และเริ่มต้นบริหารจัดการขยะ เราไปค้นหาคำตอบพร้อม ๆ กันเลย



 “ชุมชนวัดชากลูกหญ้า” ตั้งอยู่ที่ตำบลห้วยโป่ง อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง ชุมชนนี้เป็นชุมชนกึ่งเมือง มีปริมาณขยะมูลฝอย ถึงประมาณ 8.2 ตันต่อวัน พี่เปิ้ล นภาพัฒน์ อู่เจริญ ประธานวิสาหกิจชุมชนธนาคารคัดแยกขยะรีไซเคิล ชุมชนวัดชากลูกหญ้า เล่าให้เราฟังว่า “จุดเริ่มต้นของการบริหารจัดการขยะภายในชุมชนเกิดขึ้นเมื่อ 2-3 ปีก่อน ชาวบ้านที่อยู่อาศัยในชุมชนมาช่วยกันคิดว่า จะนำขยะที่มีอยู่มาทำอะไรให้เป็นประโยชน์ได้บ้าง ทางเทศบาลจึงได้ส่งชาวบ้านให้ไปศึกษาดูงานหลายๆ ที่ กลับมาจึงได้แนวคิดและตกผลึกออกมาเป็น โครงการธนาคารคัดแยกขยะรีไซเคิล โดยคณะกรรมการมีกติกาว่า ชาวบ้านที่เป็นสมาชิกของโครงการ จะต้องนำขยะมาฝากตามที่กำหนด เพื่อรักษาความเป็นสมาชิกไว้ ส่วนเงินที่ได้จากการเอาขยะมาฝากไว้ ทุกคนมีมติเป็นเอกฉันท์ให้เอาไว้ดูแลเรื่องของฌาปณกิจ และจัดสรรในเรื่องของสวัสดิการ ทุนการศึกษา ค่ารักษาพยาบาล โดยขยะที่ได้ทำการคัดแยกจากครัวเรือนมาถึงพี่เปิ้ล มีประมาณ 2.5 ตันต่อเดือน นำเข้าโครงการฯ และจัดการจนทำให้ปริมาณขยะลดลงไป”      

หลังจากนั้น เมื่อโครงการธนาคารคัดแยกขยะฯ ดำเนินการมาได้ระยะเวลาหนึ่ง ประกอบกับทางบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC ได้สร้าง “YOUเทิร์น แพลตฟอร์ม” ซึ่งเป็นระบบจัดการพลาสติกใช้แล้วแบบครบวงจรขึ้น ตั้งแต่การรวบรวมและคัดแยกขยะ การขนส่งขยะพลาสติกเข้าสู่ระบบกระบวนการรีไซเคิล และกระบวนการแปรรูปจนได้กลับมาเป็นสินค้าอัพไซคลิง ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มอีกครั้งหนึ่ง ตอบสนองการดำเนินชีวิตของผู้คนและส่งเสริมให้เกิดพฤติกรรมการรีไซเคิล รวมถึงสร้างระบบการบริหารจัดการขยะอย่างยั่งยืน GC เล็งเห็นว่าแพลตฟอร์มนี้น่าจะมีประโยชน์กับชุมชนแห่งนี้ จึงได้เข้ามาเป็นพลังเสริม ในการช่วยพัฒนาการบริหารจัดการขยะของชุมชนให้ครบวงจร เช่น การบันทึกข้อมูลขยะขาเข้าจากแหล่งต่างๆ การจัดการด้านบัญชีการเงิน ข้อมูลขยะในคลัง จนถึงการจัดการด้านการขายพลาสติก (ประเภท PET และ HDPE) ให้กับโรงงาน ENVICCO ของ GC ซึ่งเป็นโรงงานผลิตเม็ดพลาสติกรีไซเคิลระดับ Food Grade มาตรฐานยุโรปแห่งแรกของประเทศไทย ช่วยบริหารจัดการด้านการขนส่ง (Logistics) ด้วยการวางแผนการขนส่งให้มีต้นทุนที่ถูกที่สุดอีกด้วย ในที่สุดความร่วมมือระหว่าง วิสาหกิจชุมชนธนาคารคัดแยกขยะรีไซเคิล ชุมชนวัดชากลูกหญ้า GC และ ENVICCO จึงทำให้ ศูนย์บริหารและจัดการขยะรีไซเคิล ชุมชนวัดชากลูกหญ้า เกิดขึ้นเมื่อเดือนธันวาคม ปีที่ผ่านมา ซึ่งคาดว่าจะช่วยบริหารจัดการขยะของชุมชนได้ถึง 10 ตันต่อเดือน นับว่าศูนย์ฯ นี้เป็นต้นแบบการบริหารจัดการขยะอย่างครบวงจรจากต้นทางถึงปลายทางแห่งแรกในจังหวัดระยอง  

ศูนย์บริหารและจัดการขยะรีไซเคิล ชุมชนวัดชากลูกหญ้า เป็นศูนย์การเรียนรู้และบริหารจัดการขยะอย่างครบวงจร โดยดึงการมีส่วนร่วมของคนที่อยู่ในชุมชนมาช่วยกัน และสามารถนำรายได้ส่วนหนึ่งกลับมาสนับสนุนชุมชน เป็นการสร้างงานสร้างอาชีพให้คนในชุมชน ในส่วนของชุมชน ก็ช่วยลดปัญหาขยะ ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ทำให้ขยะถูกจัดการอย่างถูกต้อง นำกลับมาเพิ่มคุณค่าได้ ซึ่งข้อดีมาก ๆ ของการเป็นศูนย์การเรียนรู้อีกข้อหนึ่ง คือ จะทำให้คนที่ได้มาเรียนรู้ สามารถนำไปปรับใช้ให้เหมาะกับชุมชนของตัวเอง ถือเป็นการขยายผลการบริหารจัดการขยะอย่างยั่งยืนที่แท้จริง ซึ่งตรงกับความต้องการของชุมชน

“พี่อยากให้ศูนย์นี้เป็นศูนย์ที่ให้ชาวบ้านเข้ามาเรียนรู้ เข้ามาเห็นว่า วันนี้ชุมชนกำลังทำอะไรอยู่ เมื่อเห็นแล้วก็อยากจะให้ทุกคนมีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะร่วมมือกับสิ่งที่ชุมชนได้สร้างขึ้นมา ชุมชนวัดชากลูกหญ้าก็ขอฝากถึงพี่น้องชาวระยอง ใครที่มีเคมีตรงกับเรา อยากเดินทางร่วมโครงการนี้ไปกับเรา ท่านสามารถเข้ามาร่วมเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันได้ มาช่วยกันสานต่อโครงการนี้ให้ยั่งยืนและแข็งแรง เพื่อสิ่งแวดล้อมของชาวระยอง เราก็จะพยายามสร้างศูนย์ฯ แห่งนี้ให้เป็นศูนย์การเรียนรู้ให้กับชุมชน เพื่อน ๆ โดยรอบ นักเรียน เด็กรุ่นใหม่ๆ เพราะว่าอย่างน้อยสิ่งที่ทางผู้ประกอบการ GC , ENVICCO และหน่วยงานต่างๆ ที่เข้ามาร่วมมือมาช่วยกัน ก็ทำให้เรามีพลังที่จะทำให้โครงการนี้ยั่งยืนตลอดไป” พี่เปิ้ลกล่าวทิ้งท้ายด้วยแววตามุ่งมั่น



จากที่ได้พูดคุยกับพี่เปิ้ล ประธานวิสาหกิจชุมชน ธนาคารคัดแยกขยะรีไซเคิล ชุมชนวัดชากลูกหญ้าในวันนี้ ทำให้เรากลับออกมาจากชุมชนด้วยความอิ่มเอมใจ พลังความมุ่งมั่นและเอาจริงเอาจังของชาวบ้านชุมชนวัดชากลูกหญ้าที่มีทั้งความสำนึกรักบ้านเกิด ความต้องการที่จะเห็นสิ่งแวดล้อมที่ดีเกิดขึ้นในชุมชนของตัวเอง และยังเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับผู้อื่น จนทำให้วันนี้ ชุมชนของพวกเขากลายเป็นชุมชนเข้มแข็ง เป็นต้นแบบของศูนย์การเรียนรู้แห่งแรกที่ครบวงจร สามารถแบ่งปันองค์ความรู้ให้ชุมชนใดก็ตามที่สนใจ นำไปต่อยอดปรับใช้ และสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน เราหวังว่า ใครก็ตามที่ได้อ่านเรื่องราวในวันนี้คงจะได้รับแรงบันดาลใจไม่มากก็น้อย ในการเริ่มต้นทำสิ่งดี ๆ เพื่อถิ่นที่อยู่ของเรากันนะคะ

—————————————————–

*ศูนย์บริหารและจัดการขยะรีไซเคิล ชุมชนวัดชากลูกหญ้า เป็นหนึ่งในโครงการของชุมชนเข้มแข็ง ซึ่งมาจากแนวคิดของ GC ที่มีความเชื่อว่า การพัฒนาความยั่งยืน คือ การสร้างความสมดุลระหว่าง เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ทำให้เกิดการพัฒนาโดยเชื่อมโยงอย่างครบวงจร ตั้งแต่ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด นวัตกรรมและเทคโนโลยี ความชำนาญ ประสบการณ์ แนวทางการบริหารจัดการ และองค์ความรู้ด้านต่าง ๆ นับเป็นการเสริมสร้างให้ชุมชนมีความเข้มแข็งและพัฒนาชุมชนให้สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน

—————————————————–

GC เขาฝากมาบอก : หากชุมชนใดในประเทศนี้ สนใจอยากเปลี่ยนแปลงชุมชนของตัวเองให้ดีขึ้นกว่าเดิม                ด้วยการบริหารจัดการขยะจาก YOUเทิร์น แพลตฟอร์ม สามารถแจ้งความประสงค์ของท่านมาได้ที่ : youturn@pttgcgroup.com เราพร้อมที่จะเป็นพลังเสริมเล็กๆ ให้ทุกคนนะ : )