องค์กรภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยภาคตะวันออก จัดโครงการ “แม่=หมอในครอบครัว”

องค์กรภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยภาคตะวันออก จัดโครงการ “แม่=หมอในครอบครัว” เติมความรู้การเสริมสร้างสุขภาพด้วยภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยให้สตรีและ LGBT นำสมุนไพรใกล้ตัวสร้างครอบครัวแข็งแรง เนื่องในโอกาสวันสตรีสากล 8 มีนาคม 2564

เมื่อเร็วๆนี้ นายสุนทร พรหมมา ประธานองค์กรภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยภาคตะวันออกและคณะ ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการนำภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยมาใช้เพื่อป้องกันและรักษาสุขภาพของประชาชนไม่ให้เจ็บป่วยและพิการ และเพื่อส่งเสริมสตรีให้มีความรู้และเพื่อการมีส่วนร่วมเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคให้แก่สมาชิกในครอบครัวและในชุมชน เพื่อสนับสนุนวันสตรีสากลที่จะมาถึงในวันที่ 8 มีนาคม 2564 ในงานมีการเสวนาหัวข้อ “องค์ความรู้ภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยเพื่อสตรีไทย” โดยมีนางรฎาวัญ วงศ์ศรีวงศ์ อดีต รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน ,พ.ต.ท. ดร.ฐนภัทร กิตติวงศา ส.ส. จันทบุรี เขต 1 ,ดร.วัฒนา บรรเทิงสุข เครือข่ายภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย จังหวัดระยอง นางเคียงขวัญ แรงสืบสิน ผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยจากจังหวัดสระแก้ว และ คณะ วิทยากรร่วมเสวนาประกอบด้วย ตัวแทนผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทย 8 จังหวัดภาคตะวันออก นักวิชาการและผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งได้นำ ผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรที่มีสรรพคุณทางยา เครื่องดื่มสมุนไพร อาหารเป็นยา และสมุนไพรพื้นบ้านในภาคตะวันออกมาจัดแสดงนิทรรศการด้วย โดยมีคณบดีคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎรำไพพรรณีเป็นประธานเปิดงาน และมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดจันทบุรี นายกเทศมนตรี พร้อมด้วย นางรฎาวัญ วงศ์ศรีวงศ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานในฐานะประธานองค์กรภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและคณะเดินทางมาร่วมงานด้วย กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้น ณ สำนักศิลปะวัฒนธรรมและพัฒนาชุมชน มหาวิทยาลัยราชภฎรำไพพรรณี จังหวัดจันทบุรี


นางรฎาวัญ วงศ์ศรีวงศ์ กล่าวว่า องค์กรภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยเป็นศูนย์รวมพลังความร่วมมือของสมาชิกเพื่อการพัฒนาภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย ให้ดำรงอยู่คู่แผ่นดินไทยอย่างมีศักดิ์ศรีและยั่งยืน นอกจากองค์กรในส่วนกลางแล้วยังมีการตั้งองค์กรภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยประจำภาค ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคกลาง ภาคอีสาน และภาคตะวันออก โครงการ “แม่=หมอในครอบครัว” ส่งเสริมบทบาทสตรีและ LGBT หรือผู้มีภาคหลากหลายทางเพศ ให้มีความรู้แล้วนำสมุนไพรใกล้ตัวไปสร้างสุขภาพของสมาชิกในครอบครัวให้แข็งแรง เกิดจากความตระหนักในคุณค่าและประโยชน์ของสมุนไพรไทยและตำรับยาแผนไทยโบราณที่ควรจะได้รับการพัฒนาวิจัยต่อยอดและนำมาใช้ป้องกันรักษาโรคภัยไข้เจ็บให้แก่ประชาชนชาวไทยทั้งประเทศ ซึ่งสอดคล้องกับมาตรา 55 ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และเป็นการส่งเสริมสิทธิ พัฒนาศักยภาพ บทบาทของสตรีและ LGBT ในด้านการเสริมสร้างสุขภาพแบบองค์รวมซึ่งจะสามารถนำไปประกอบอาชีพได้อย่างมีศักดิ์ศรีทั้งในและต่างประเทศ จะช่วยแก้ไขปัญหาการว่างงานตกงานได้อีกทางหนึ่ง


นางเคียงขวัญ แรงสืบสิน ผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยจากจังหวัดสระแก้ว กล่าวว่า ผู้หญิงจะทำได้หรือไม่ที่จะเป็นแม่หมอ ขอตอบว่า ผู้หญิงทำได้ดีที่สุดเพราะมีความละเอียดอ่อนและมีความอดทนสูง ถ้าผู้หญิงหันมาเป็นแม่หมอ ทุกคนในครอบครัวจะมีสุขภาพที่แข็งแรง ลดค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลได้เยอะมาก เริ่มจากการดูแลตัวเองให้สวยวันสวยคืน แข็งแรงจากการใช้สมุนไพรไทย ยกตัวอย่าง แค่การย่างไฟ เรียนรู้เรื่องนี้เรื่องเดียวก็เยียวยาได้ทั้งบ้าน บำบัดดูแลหญิงหลังคลอด เพื่อป้องกันอาการเจ็บป่วยที่จะตามมาที่เรียกว่า โรคสะบัดร้อนสะบัดหนาว หรือโรคลมผิดเดือน ถ้าคนเป็นแม่ทุกคนไม่ละเลยการดูแลตนเองเรื่องนี้ จะเป็นแม่ที่มีสุขภาพที่แข็งแรงมากในวันข้างหน้า ใช้กับคนปกติที่ต้องการผ่อนคลาย บรรเทาอาการปวดเมื่อยร่างกายหรือความเหนื่อยล้าจากการทำงาน ใช้กับคนที่เกิดอุบัติเหตุ เช่น หกล้ม ตกจากที่สูงที่มีภาวะเลือดคลั่ง เลือดตกใน ใช้กับคนที่ต้องการความงาม ใช้กับคนที่ต้องการลดน้ำหนัก การย่างไฟ ทำง่าย ๆ แต่ได้ผลมาก ใช้สมุนไพรใกล้ตัวรอบบ้านที่หาง่าย เช่น ใบหนาด ใบเปล้า ใบมะขาม ใบตะไคร้ ใบมะกรูด เป็นต้น อุปกรณ์ก็หาง่าย แค่ไม้ไผ่ ถ่าน แผ่นสังกะสี ผ้าห่ม 2 ผืน นอกจากจะเป็นแม่หมอดูแลคนในครอบครัวแล้วยังสามารถทำเป็นอาชีพสร้างรายได้เลี้ยงครอบครัวได้อีกด้วย…..

The Lighter Thailand News Bureau…//